เครื่องหมายมูลนิธิฟ้าประกายแสง คือ เลข ๑ มีประกายแสงแห่งธรรมและมีดอกบัวสัตตบงกชรองรับ มีอักษรสีทองเขียนชื่อมูลนิธิฟ้าประกายแสง
ความหมายโดยรวมของตราสัญลักษณ์ “มูลนิธิฟ้าประกายแสง” คือ จุดเริ่มต้นของการกำเนิดสรรพสิ่งในทางศาสนาเต๋าจนถึงปลายทางอันเกษมในทางพระพุทธศาสนากล่าวคือพระนิพพาน ดั่งที่ได้อุปเท่ห์ไว้ในเบื้องต้นถึงตัวเลข ๑ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเข้าถึงธรรมอันสูงสุดและเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำผู้ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ
ประดิษฐานเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อเป็นองค์ประธาน สำหรับประกอบศาสนกิจในสายจีนหรือศาสนาเต๋า
ประดิษฐานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์ประธาน สำหรับประกอบศาสนกิจทางศาสนาพุทธ อาทิเช่น ทำวัตรสวดมนต์ , นั่งสมาธิปฏิบัติภาวนาเป็นต้น
จำลองป่าใหญ่ 1,600 ตรม. ให้มีความสงบร่มรื่นแบบวิถีเซน ให้เหมาะแก่การภาวนาฝึกจิตใจ ตามรอยพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติวิปัสสนา จำลองรุกขมูลเสมือนป่าที่ท่านท้้งหลายปักกลดธุดงค์จาริกฝึกจิตให้เกิดธรรม
เป็นโรงทานสำหรับให้ความอิ่มท้องของทุกๆคนที่ได้มาปฏิบัติภาวนาและเป็นที่อิ่มด้วยความรูัคือการให้ด้านการศึกษาต่างๆ ซึ่งในอนาคตเป็นที่ให้ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆที่มีจิตอาสามาให้ความรู้ในแต่ละเดือน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ของทุกๆวัย
ลานแปดเหลี่ยมสร้างยกสูง กว้าง 10.8×10.8 เมตร สูง 90 ซม. จุดศูนย์กลางของลานได้บรรจุก้อนดินมวลสารของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญอธิษฐานจิตและท่านอาจารย์ศุภกฤษณชัยวงค์ (ศุภรัตน์) แสงจันทร์ อธิษฐานจิต บรรจุลงดินกลางลานอธิษฐาน เพื่อประเทศชาติศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ และด้านบนเป็น ไซทีโป๊ยข่วย (โป๊ยข่วยก่อนกำเนิดฟ้า) สร้างด้วยกระจก Stained Glass 3 ชั้น เพื่อเป็นช่องเชื่อมระหว่างฟ้าและดิน และลานด้านนอกเป็น โป๊ยข่วยหลังกำเนิดฟ้าดิน
ลานอธิษฐานนี้สร้างสำหรับไหว้สักการะฟ้าดินในงานพิธีต่างๆ และยังเป็นลานอธิฐานขอพรต่อฟ้าดินเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงสำหรับการสะเดาะเคราะห์ในปีชง
ลานอธิษฐานนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิด วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ลานอธิษฐานสร้างอยู่บริเวณด้านหน้า ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ที่กำลังดำเนินการสร้าง และจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2566