มูลนิธิฟ้าประกายแสง

ศาลหนาจ่า @กรุงเทพ
มูลนิธิฟ้าประกายแสง (Fah Pra-krai Seang Foundation) 光德善堂 ภาษาจีนอ่านว่า กวง เต็ก เสียง ตึ๊ง

เครื่องหมายมูลนิธิฟ้าประกายแสง คือ เลข ๑ มีประกายแสงแห่งธรรมและมีดอกบัวสัตตบงกชรองรับ มีอักษรสีทองเขียนชื่อมูลนิธิฟ้าประกายแสง

  • เลข ๑ ในจุดศูนย์กลางของแสงฉัพพรรณรังสีนั้น มีความหมายคือ จุดเริ่มต้น,การเริ่มต้น จะกล่าวทางศาสนาเต๋านั้นได้เขียนในตำราไว้ว่า “ ๑ ให้กำเนิด ๒ ๒ ให้กำเนิด ๓ ๓ ให้กำเนิดสรรพสิ่ง “ ในความหมายนี้คือ ๑ ในศาสนาเต๋านั้นเป็นจุดต้นกำเนิดของสรรพสิ่ง การกำเนิดของ ๑ จึงจะมี ๒ และ ๓ เป็นต้นและการมีจุดเริ่มต้นนั้น ย่อมมีจุดปลายทางเสมอ ขอกล่าวในทางพระพุทธศาสนาได้มีจุดปลายทางที่สำคัญ คือ “นิพพาน” ปลายทางที่มีแค่ ๑ เดียวแน่นอน ย่อมไม่มีสิ่งใดเป็นที่สุดได้นอกจาก “นิพพาน” ดังนั้น เลข ๑ นี้จึงเป็นทั้งจุดกำเนิดของสรรพสิ่งและเป็นปลายทางที่เป็นที่สุดของสรรพสิ่งไม่มีสิ่งใดในเหนือกว่าเช่นกัน
  • สีทองของตัวอักษรและตัวเลข นั้นให้ความหมายถึง ทอง ย่อมความแข็งแกร่งและจริงแท้มั่นคงไม่มีแปรเป็นสิ่งอื่นได้
  • แสงฉัพพรรณรังสี คือ แสงแห่งธรรมที่แผ่ออกมาเป็นรัศมี จากพระวรกายขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า อันมีสีทองเป็นต้น
  • ดอกบัวสัตตบงกช การบรรลุถึงธรรมอันสูงสุดขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า

ความหมายโดยรวมของตราสัญลักษณ์ “มูลนิธิฟ้าประกายแสง” คือ จุดเริ่มต้นของการกำเนิดสรรพสิ่งในทางศาสนาเต๋าจนถึงปลายทางอันเกษมในทางพระพุทธศาสนากล่าวคือพระนิพพาน ดั่งที่ได้อุปเท่ห์ไว้ในเบื้องต้นถึงตัวเลข ๑ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการเข้าถึงธรรมอันสูงสุดและเป็นส่วนหนึ่งที่จะนำผู้ปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงธรรมขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า เพื่อให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของมูลนิธิ

 

ความตั้งใจในการสร้างโครงการอารามแห่งความรู้แจ้ง จะรวมทุกๆวัฒนธรรมและหลายๆศาสนา อาทิเช่น ศาสนาพุทธ,ศาสนาเต๋า,วิถีเซน เป็นต้นไว้สำหรับเป็นสถานที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของทุกคน จึงเป็นที่มาของชื่อโครงการ อารามแห่งความรู้แจ้ง ซึ่งจะได้ทั้งความรู้แจ้งในชีวิตประจำวัน และมีความรู้แจ้งในกฏของธรรมชาติ จะเป็นสถานที่สำหรับการให้ โดยไม่แบ่งแยก ปราศจากพาณิชย์ต่างๆทุกประการ

วิหารเทพ

ประดิษฐานเทพเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อเป็นองค์ประธาน สำหรับประกอบศาสนกิจในสายจีนหรือศาสนาเต๋า

วิหารพระ

ประดิษฐานองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเป็นองค์ประธาน สำหรับประกอบศาสนกิจทางศาสนาพุทธ อาทิเช่น ทำวัตรสวดมนต์ , นั่งสมาธิปฏิบัติภาวนาเป็นต้น

สวนธรรม

จำลองป่าใหญ่ 1,600 ตรม. ให้มีความสงบร่มรื่นแบบวิถีเซน ให้เหมาะแก่การภาวนาฝึกจิตใจ ตามรอยพ่อแม่ครูบาอาจารย์สายปฏิบัติวิปัสสนา จำลองรุกขมูลเสมือนป่าที่ท่านท้้งหลายปักกลดธุดงค์จาริกฝึกจิตให้เกิดธรรม

อาคารอิ่มรู้

เป็นโรงทานสำหรับให้ความอิ่มท้องของทุกๆคนที่ได้มาปฏิบัติภาวนาและเป็นที่อิ่มด้วยความรูัคือการให้ด้านการศึกษาต่างๆ ซึ่งในอนาคตเป็นที่ให้ความรู้ของผู้เชี่ยวชาญในสาขาวิชาต่างๆที่มีจิตอาสามาให้ความรู้ในแต่ละเดือน เพื่อเป็นแหล่งการเรียนรู้ของทุกๆวัย

"

ลานแปดเหลี่ยมสร้างยกสูง กว้าง 10.8×10.8  เมตร สูง 90 ซม. จุดศูนย์กลางของลานได้บรรจุก้อนดินมวลสารของหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญอธิษฐานจิตและท่านอาจารย์ศุภกฤษณชัยวงค์ (ศุภรัตน์) แสงจันทร์ อธิษฐานจิต บรรจุลงดินกลางลานอธิษฐาน เพื่อประเทศชาติศาสนาและสถาบันพระมหากษัตริย์ และด้านบนเป็น ไซทีโป๊ยข่วย (โป๊ยข่วยก่อนกำเนิดฟ้า) สร้างด้วยกระจก Stained Glass 3 ชั้น เพื่อเป็นช่องเชื่อมระหว่างฟ้าและดิน และลานด้านนอกเป็น โป๊ยข่วยหลังกำเนิดฟ้าดิน

ลานอธิษฐานนี้สร้างสำหรับไหว้สักการะฟ้าดินในงานพิธีต่างๆ และยังเป็นลานอธิฐานขอพรต่อฟ้าดินเพื่อความเป็นสิริมงคล รวมถึงสำหรับการสะเดาะเคราะห์ในปีชง

ลานอธิษฐานนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์และเปิด วันศุกร์ที่ 13 มกราคม 2566 ลานอธิษฐานสร้างอยู่บริเวณด้านหน้า ศาลเจ้าหน่าจาซาไท้จื้อ ที่กำลังดำเนินการสร้าง และจะเสร็จสมบูรณ์ภายในปี 2566

Our Latest Projects

Where are we?

April 2023
May 2023
May 2023
Today